พอล สโคลส์ ระบุชื่อในใจที่คิดว่าเหมาะสมแทน รูบน อาโมริม

Browse By

พอล สโคลส์ ตำนานของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่ออังกฤษ ถึงรายชื่อผู้จัดการทีมในใจของเขาที่มองว่าเหมาะสมจะเข้ามารับหน้าที่แทน รูเบน อาโมริม ซึ่งกำลังตกเป็นข่าวอย่างหนักกับการอำลาตำแหน่งผู้จัดการทีมสปอร์ติ้ง ลิสบอน หลังจากมีข่าวเชื่อมโยงกับหลายสโมสรใหญ่ในยุโรป โดยเฉพาะกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอง ที่กำลังอยู่ในช่วงสำคัญของการประเมินอนาคตของ เอริก เทน ฮาก หลังผลงานของทีมในฤดูกาลนี้ยังไม่คงเส้นคงวาเท่าที่ควร

สโคลส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในคนที่แฟนบอลปีศาจแดงให้ความเคารพในมุมมองทางฟุตบอล ได้เผยรายชื่อกุนซือที่เขาเชื่อว่ามีคุณสมบัติเหมาะสมกับการสานต่องานในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด และนั่นกลายเป็นหัวข้อที่แฟนบอลทั่วโลก รวมถึงผู้ติดตามวิเคราะห์เกมผ่านช่อง ทางเข้า ทางเข้า ufabet ออโต้ เข้าเร็วไม่สะดุด ต่างจับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะทุกคำพูดของเขามักมีน้ำหนักและสะท้อนถึงจิตวิญญาณของทีมในแบบที่แฟนบอลยูไนเต็ดต้องการเห็น

ในบทสัมภาษณ์ดังกล่าว พอล สโคลส์ กล่าวถึง รูเบน อาโมริม ว่าเป็นโค้ชที่มีแนวทางการทำทีมที่ยอดเยี่ยมและทันสมัยมากที่สุดคนหนึ่งในยุโรปตอนนี้ เขาชื่นชมผลงานของอาโมริมกับสปอร์ติ้ง ลิสบอน ที่สามารถสร้างทีมขึ้นมาด้วยนักเตะดาวรุ่งและยังคงพาทีมประสบความสำเร็จในลีกโปรตุเกสได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเล่นเกมรุกที่ดุดันและมีระบบการเพรสซิ่งที่ชัดเจน สโคลส์ยอมรับว่า “รูเบน อาโมริม เป็นโค้ชที่มีวิสัยทัศน์และมีแนวทางการทำทีมที่น่าชื่นชมมาก เขามีความสามารถในการพัฒนาเยาวชนและสร้างระบบทีมที่แข็งแกร่ง แต่หากเขาตัดสินใจย้ายออกไปจริง ๆ ผมคิดว่ามีเพียงไม่กี่คนในยุโรปที่สามารถเข้ามาแทนที่เขาได้โดยไม่ทำให้ทีมสะดุด”

เมื่อถูกถามถึงรายชื่อที่เขามองว่าเหมาะสมจะรับช่วงต่อ สโคลส์เปิดเผยอย่างตรงไปตรงมาว่า “ผมมีสามชื่อในใจ และทั้งหมดต่างเป็นคนที่มีแนวทางฟุตบอลที่สอดคล้องกับอาโมริม ทั้งในเรื่องของปรัชญาเกมรุก การบริหารทีม และความกล้าในการใช้ผู้เล่นดาวรุ่ง” โดยชื่อแรกที่เขากล่าวถึงคือ โรแบร์โต้ เด แซร์บี ผู้จัดการทีมไบรท์ตัน ที่ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในพรีเมียร์ลีก “เด แซร์บี เป็นหนึ่งในโค้ชที่ผมชอบมากที่สุดในตอนนี้ เขาทำให้ทีมไบรท์ตันเล่นฟุตบอลอย่างมีสไตล์ สร้างสรรค์ และกล้าเล่นกับคู่แข่งทุกทีม เขาไม่กลัวการเจอกับทีมใหญ่ เขาทำให้ผู้เล่นธรรมดาดูมีคุณภาพ และนี่คือสิ่งที่โค้ชระดับสูงควรมี” สโคลส์กล่าวอย่างชื่นชม

ชื่อที่สองในลิสต์ของสโคลส์

คือ จูเลียน นาเกลส์มันน์ ผู้จัดการทีมชาติเยอรมนี ซึ่งเขามองว่าเป็นโค้ชที่มีความคิดทันสมัยและมีศักยภาพในการวางระบบฟุตบอลระดับสูง “นาเกลส์มันน์ เป็นโค้ชที่มีความละเอียดในทุกแง่มุม เขาเข้าใจแท็กติกและสามารถปรับทีมให้เข้ากับสถานการณ์ได้อย่างยอดเยี่ยม เขาอาจยังหนุ่ม แต่เขามีความเป็นผู้นำและความกล้าในการตัดสินใจที่ไม่เหมือนใคร ถ้าเขาได้กลับมาทำงานในระดับสโมสร ผมเชื่อว่าเขาจะพาทีมไปได้ไกลแน่นอน” คำกล่าวของสโคลส์สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของกุนซือชาวเยอรมันรายนี้ ที่เคยคุมบาเยิร์น มิวนิค และสร้างชื่อเสียงตั้งแต่อายุยังน้อย

ส่วนชื่อที่สามที่สร้างความฮือฮาที่สุด คือ ซิเนดีน ซีดาน อดีตกุนซือเรอัล มาดริด ที่พาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ถึงสามสมัยติดต่อกัน สโคลส์อธิบายว่า “ผมรู้ดีว่าซีดานไม่ได้ทำทีมมาสักพักแล้ว แต่เขามีบุคลิกและบารมีในแบบที่นักเตะเคารพ เขาไม่เพียงแค่เข้าใจแท็กติก แต่ยังเข้าใจจิตใจของนักฟุตบอลอย่างแท้จริง ผมคิดว่าเขาสามารถสร้างแรงจูงใจให้ผู้เล่นกลับมาเล่นด้วยความมั่นใจได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องการมากที่สุดในตอนนี้” นี่คือคำพูดที่ทำให้แฟนบอลหลายคนเริ่มจินตนาการถึงการกลับมาของบรรยากาศแห่งความยิ่งใหญ่ในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ภายใต้โค้ชระดับตำนาน

อย่างไรก็ตาม สโคลส์ไม่ได้มองแค่เรื่องชื่อเสียงของกุนซือ แต่ยังพูดถึงโครงสร้างการบริหารทีมว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สโมสรต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กัน เขากล่าวว่า “ไม่ว่าจะเป็นใครที่จะมาคุมทีมต่อจากอาโมริม หรือแม้แต่ถ้าเขาอยู่ต่อ สโมสรต้องมีระบบสนับสนุนที่ชัดเจน ทุกอย่างเริ่มจากความเข้าใจระหว่างบอร์ดบริหารและผู้จัดการทีม หากผู้จัดการทีมไม่ได้รับการสนับสนุนที่ถูกต้อง ก็ยากที่จะพาทีมไปข้างหน้า” ประเด็นนี้สะท้อนให้เห็นถึงประสบการณ์ของสโคลส์ในฐานะอดีตนักเตะที่เคยอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านของสโมสรหลายยุค และเข้าใจถึงความซับซ้อนของการบริหารทีมระดับโลกอย่างแท้จริง

ในขณะเดียวกัน ข่าวลือเรื่องอนาคตของ รูเบน อาโมริม ก็ยังคงเป็นที่พูดถึงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากสื่อโปรตุเกสรายงานว่า เขาได้มีการพูดคุยเบื้องต้นกับตัวแทนของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เกี่ยวกับโอกาสในการย้ายมาคุมทีมในพรีเมียร์ลีก ซึ่งหากดีลดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ก็จะถือเป็นการย้ายทีมครั้งสำคัญของวงการฟุตบอลยุโรป เพราะอาโมริมถือเป็นโค้ชที่ได้รับการยกย่องในแง่ของความคิดสร้างสรรค์และความเป็นผู้นำ

ในส่วนของแฟนบอลปีศาจแดง หลายคนแสดงความคิดเห็นสอดคล้องกับมุมมองของพอล สโคลส์ โดยเฉพาะชื่อของ โรแบร์โต้ เด แซร์บี ที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุดในโซเชียลมีเดีย แฟนบอลจำนวนไม่น้อยมองว่า เด แซร์บี คือโค้ชที่สามารถนำฟุตบอลเชิงรุกกลับมาสู่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ดได้อีกครั้ง เขามีปรัชญาที่ใกล้เคียงกับยุคเฟอร์กูสันในแง่ของความกล้าในการบุกและการผลักดันดาวรุ่งจากอคาเดมี ซึ่งแนวคิดนี้ได้รับการชื่นชมในวงกว้าง รวมถึงในหมู่นักวิเคราะห์ที่ติดตามผ่านช่อง ทางเข้า ufabet บอลชุดออนไลน์ ราคาดีที่สุด ที่มองว่า หากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สามารถดึงกุนซืออย่างเด แซร์บี มาร่วมทีมได้ ก็อาจเป็นการเริ่มต้นยุคใหม่ของสโมสรอย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตาม สโคลส์ก็ย้ำว่าการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ต้องมาพร้อมกับความต่อเนื่องและแผนระยะยาว “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่สามารถเปลี่ยนโค้ชทุกปีได้อีกต่อไป ทีมต้องมีทิศทางที่ชัดเจนและให้เวลาโค้ชสร้างสิ่งที่เขาต้องการ ถ้าคุณดูทีมอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือ ลิเวอร์พูล พวกเขาประสบความสำเร็จเพราะเชื่อมั่นในผู้จัดการทีมและระบบของตัวเอง” คำพูดนี้ของสโคลส์สะท้อนถึงความต้องการเห็นสโมสรกลับมามีเสถียรภาพในระยะยาว หลังจากที่ผ่านยุคแห่งความไม่แน่นอนนับตั้งแต่การอำลาของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

เมื่อพูดถึงมุมมองของพอล สโคลส์ต่อทิศทางของทีมในอนาคต เขายังกล่าวเพิ่มเติมว่า “ผมไม่ได้ต้องการให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับไปสู่ยุคเก่า แต่ผมอยากเห็นทีมที่มีเอกลักษณ์ชัดเจน เล่นฟุตบอลที่แฟนบอลภูมิใจในทุกสัปดาห์ ไม่ว่าจะเป็นใครที่มาคุมทีมต่อจากอาโมริม หรือใครก็ตามที่เข้ามาในอนาคต เขาต้องเข้าใจจิตวิญญาณของสโมสรนี้ก่อนเป็นอันดับแรก” ซึ่งประโยคนี้ได้รับการแชร์อย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ เพราะมันสะท้อนความคิดของแฟนบอลส่วนใหญ่ที่ต้องการเห็นทีมกลับมาเป็น “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในแบบที่แท้จริง” อีกครั้ง

สิ่งที่น่าสนใจคือ การให้สัมภาษณ์ของสโคลส์ครั้งนี้ไม่ได้มีเพียงการเสนอชื่อผู้จัดการทีม แต่ยังเป็นการส่งสารถึงบอร์ดบริหารของสโมสรโดยตรงว่า ถึงเวลาแล้วที่ต้องมีการวางรากฐานใหม่อย่างจริงจัง การเลือกผู้จัดการทีมในยุคต่อไปไม่ควรพิจารณาเพียงชื่อเสียงหรือสถิติ แต่ต้องเลือกจากคนที่เข้าใจปรัชญาและมีความสามารถในการพัฒนานักเตะ ซึ่งในมุมมองของเขา คนอย่าง เด แซร์บี, นาเกลส์มันน์ และ ซีดาน คือบุคลากรที่มีคุณสมบัติเหล่านั้นครบถ้วน

แฟนบอลทั่วโลก รวมถึงผู้วิเคราะห์ในแพลตฟอร์ม ทางเข้า คาสิโน ufabet เว็บตรง ครบทุกเกมเดิมพันต่างเห็นพ้องว่า การออกมาพูดของพอล สโคลส์ ครั้งนี้ไม่ใช่แค่การแสดงความคิดเห็นทั่วไป แต่เป็นการกระตุ้นให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เริ่มต้นคิดอย่างเป็นระบบและมีวิสัยทัศน์มากขึ้นในยุคใหม่ เพราะการสร้างทีมฟุตบอลในปัจจุบันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเงินหรือชื่อเสียงเพียงอย่างเดียว แต่ต้องอาศัยการวางแผนระยะยาวและการสร้างเอกลักษณ์ที่มั่นคง