ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก มอลตา 0 – เนเธอร์แลนด์ 4

Browse By

ศึก ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนยุโรป นัดล่าสุดที่สนามทา’คาลี สเตเดี้ยม ประเทศมอลตา จบลงด้วยชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของ “อัศวินสีส้ม” ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ที่โชว์ฟอร์มเหนือชั้นบุกถล่มเจ้าถิ่น มอลตา ไปอย่างขาดลอย 4-0 เกมนี้นอกจากจะตอกย้ำความแข็งแกร่งของทัพดัตช์ภายใต้การคุมทีมของ โรนัลด์ คูมัน แล้ว ยังสะท้อนให้เห็นถึงพัฒนาการของทีมที่กำลังเดินหน้าอย่างมั่นคงสู่เป้าหมายการผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2026 ที่สหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโก

ท่ามกลางความคาดหวังของแฟนบอลทั่วโลกที่จับตามองผลงานของหนึ่งในชาติฟุตบอลที่มีสไตล์การเล่นเป็นเอกลักษณ์มากที่สุด และยังเป็นทีมขวัญใจของเหล่าผู้ติดตามข่าวสารกีฬาและแฟนบอลในทุกมุมโลก รวมถึงผู้ชมที่ติดตามวิเคราะห์การแข่งขันผ่านช่องทาง ทางเข้า ufabet เว็บตรงทางเข้า เล่นได้ทุกที่ ที่ต่างให้ความสนใจกับฟอร์มการเล่นของทีมชาติเนเธอร์แลนด์ในรอบคัดเลือกครั้งนี้เป็นพิเศษ

ตั้งแต่นาทีแรกของเกม เนเธอร์แลนด์แสดงให้เห็นถึงความเหนือกว่าทุกมิติ ทั้งในด้านแท็กติก การครองบอล และความมั่นใจในการเล่น เกมรุกที่นำโดย เมมฟิส เดปาย, โคดี้ กัคโป และ ชาบี ซิมอนส์ ทำงานร่วมกันได้อย่างไหลลื่น แถมยังมี เฟรงกี้ เดอ ยอง คอยควบคุมจังหวะในแดนกลางและออกบอลอย่างแม่นยำ จนแนวรับของมอลตาแทบไม่มีโอกาสได้พักหายใจ การเคลื่อนที่อย่างเป็นระบบของทีมเยือนทำให้เกมดูอยู่ในมือของพวกเขาตลอดเวลา

และในนาทีที่ 14 ประตูแรกก็มาถึงจากความผิดพลาดของแนวรับเจ้าถิ่น เมื่อ เดปาย ใช้ความสามารถเฉพาะตัวแย่งบอลได้ก่อนจ่ายต่อให้ กัคโป หลุดเข้าไปยิงด้วยซ้ายตุงตาข่าย เป็นประตูขึ้นนำ 1-0 ที่เรียกความมั่นใจให้กับทีมได้ตั้งแต่ช่วงต้นเกม

หลังจากนั้นรูปเกมยังคงเป็นของเนเธอร์แลนด์โดยสิ้นเชิง พวกเขาใช้การต่อบอลสั้นที่แม่นยำและความเข้าใจในจังหวะการเคลื่อนที่ของเพื่อนร่วมทีมในการเจาะแนวรับคู่แข่ง การวางระบบการเล่นของคูมันที่เน้นการเพรสซิ่งตั้งแต่แดนหน้าและการเคลื่อนที่แบบไดนามิกทำให้มอลตาไม่สามารถครองบอลได้เกิน 3-4 จังหวะติดต่อกัน เกมรุกของ “อัศวินสีส้ม” จึงไหลลื่นและเต็มไปด้วยความหลากหลาย ทั้งการบุกทางริมเส้น การยิงไกล และการเข้าทำจากแดนกลาง ความมุ่งมั่นของทีมแสดงออกให้เห็นชัดในทุกการสัมผัสบอล

ในนาทีที่ 29 เนเธอร์แลนด์ได้ประตูที่สองจากจังหวะเตะมุมที่ วีร์จิล ฟาน ไดค์ ขึ้นโหม่งเช็ดไปเสาไกลก่อนที่ ดอนเยลล์ มาเลน จะตามซ้ำเข้าไปอย่างเฉียบขาด ทำให้ทีมเยือนหนีห่างเป็น 2-0 ประตูนี้แสดงให้เห็นถึงจุดแข็งของทีมในลูกตั้งเตะและการประสานงานของผู้เล่นแนวรุกกับแนวรับอย่างลงตัว มอลตาพยายามตอบโต้ด้วยเกมสวนกลับ แต่กลับไม่สามารถเจาะแนวรับที่แข็งแกร่งของเนเธอร์แลนด์ได้เลย เพราะทั้ง ฟาน ไดค์ และ มัตไตส์ เดอ ลิกต์ ต่างช่วยกันป้องกันได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งการอ่านเกมและการเข้าสกัดอย่างแม่นยำ

เกมดำเนินต่อไปด้วยรูปแบบที่แทบจะเป็นการบุกอยู่ฝั่งเดียว เนเธอร์แลนด์ครองบอลมากกว่า 70% และสร้างโอกาสได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่มอลตาต้องถอยลงไปตั้งรับลึกจนแทบจะไม่มีโอกาสขึ้นเกมรุกได้เลย นาทีที่ 41 ทีมเยือนเกือบได้ประตูที่สามจากลูกยิงของ เดปาย ที่ปั่นด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษ แต่บอลเฉียดเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 2-0 ซึ่งเป็นสกอร์ที่สะท้อนความต่างชั้นระหว่างสองทีมได้อย่างชัดเจน

ครึ่งหลังเริ่มต้นขึ้น เนเธอร์แลนด์ยังคงครองเกมได้แบบเบ็ดเสร็จ คูมันไม่เปลี่ยนแท็กติก แต่ปรับตำแหน่งของผู้เล่นให้สมดุลขึ้น โดยให้ เดอ ยอง ถอยต่ำลงมาช่วยเกมรับมากขึ้นเพื่อเปิดทางให้ ซิมอนส์ และ กัคโป มีอิสระในการสร้างสรรค์เกมรุก และในนาทีที่ 56 ความเหนือชั้นของทีมเยือนก็ส่งผลอีกครั้ง เมื่อ ซิมอนส์ เลี้ยงบอลแหวกแนวรับมอลตา 2 คนก่อนจ่ายทะลุช่องให้ เดปาย ยิงด้วยซ้ายผ่านมือผู้รักษาประตูเข้าไปอย่างเฉียบขาด ทำให้สกอร์ขยับเป็น 3-0 ท่ามกลางเสียงเฮจากแฟนบอลชาวดัตช์ที่เดินทางมาเชียร์ถึงสนาม

แม้จะนำห่าง แต่เนเธอร์แลนด์ยังคงเล่นด้วยความจริงจังและไม่ลดความดุดัน เกมรุกยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการประสานงานทางฝั่งซ้ายระหว่าง กัคโป และ นาธาน อาเก้ ที่สร้างความปั่นป่วนให้แนวรับเจ้าถิ่นอยู่ตลอด นาทีที่ 70 ทีมเยือนได้ประตูปิดท้ายจากจังหวะที่ กัคโป ครอสบอลเข้ากลางให้ ดอนเยลล์ มาเลน ยิงจังหวะแรกติดบล็อก ก่อนจะตามซ้ำเข้าไปเป็นประตูที่สองของตัวเองในเกมนี้ และเป็นประตูที่สี่ของทีม ส่งผลให้เนเธอร์แลนด์นำขาด 4-0 ซึ่งเป็นสกอร์ที่ยากจะพลิกกลับได้ในช่วงเวลาที่เหลือ

ช่วงท้ายเกม คูมันเปลี่ยนผู้เล่นสำรองหลายรายลงสนามเพื่อเก็บประสบการณ์และรักษาความสด เช่น ลุค เดอ ยอง และ เยเรมี่ ฟริมปง ซึ่งทั้งคู่ก็ทำผลงานได้ดีในช่วงเวลาที่อยู่ในสนาม การส่งผู้เล่นหน้าใหม่ลงเล่นในเกมแบบนี้สะท้อนถึงแนวทางของโค้ชชาวดัตช์ที่ต้องการสร้างทีมที่มีความลึกและพร้อมต่อสู้ในทุกรายการ การหมุนเวียนผู้เล่นอย่างเหมาะสมทำให้ทีมไม่เหนื่อยล้าและยังคงรักษามาตรฐานการเล่นไว้ได้ตลอด 90 นาที

หลังจบเกม โรนัลด์ คูมัน ให้สัมภาษณ์ด้วยความพอใจว่า “เรามาเพื่อสามแต้มและเราทำได้ตามเป้าหมาย ทีมเล่นด้วยความมั่นใจและมีสมาธิตลอดเกม ผมชอบวิธีที่นักเตะทุกคนสื่อสารกันในสนาม และที่สำคัญคือพวกเขาเคารพในระบบการเล่นของทีม” คำพูดนี้สะท้อนถึงความเป็นผู้นำของคูมันที่พยายามสร้างทีมเนเธอร์แลนด์ให้กลับมามีเอกลักษณ์อีกครั้ง โดยเน้นทั้งวินัยในแท็กติกและความเข้าใจเกมในระดับสูง ความมั่นใจและความเป็นทีมของพวกเขาในตอนนี้ถือเป็นสิ่งที่น่าจับตามองสำหรับแฟนบอลทั่วโลก รวมถึงกลุ่มผู้วิเคราะห์ฟุตบอลในแพลตฟอร์ม ทางเข้า สมัคร ufabet ล่าสุด โปรโมชั่นจัดเต็ม ที่มองว่า เนเธอร์แลนด์คือหนึ่งในทีมที่มีศักยภาพมากพอจะสร้างเซอร์ไพรส์ในฟุตบอลโลกครั้งหน้า

สำหรับสถิติหลังเกม เนเธอร์แลนด์ครองบอลถึง 74% มีโอกาสยิงทั้งหมด 18 ครั้ง เข้ากรอบถึง 9 ครั้ง ขณะที่มอลตายิงเพียง 2 ครั้ง และไม่สามารถยิงตรงกรอบได้เลย ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความต่างของคุณภาพทีมและการเตรียมความพร้อมก่อนเกมของทั้งสองฝ่าย ความเป็นระบบของทีมเยือนคือหัวใจสำคัญที่ทำให้พวกเขาเล่นได้เหนือกว่าในทุกมิติ ขณะเดียวกัน นักเตะอย่าง กัคโป และ ซิมอนส์ ก็ได้รับคำชมเป็นพิเศษจากสื่อยุโรปในฐานะดาวรุ่งที่สามารถแบกรับความกดดันในเกมระดับชาติได้อย่างยอดเยี่ยม

มอลตาในฐานะเจ้าบ้านแม้จะพ่ายแพ้ยับเยิน แต่ก็ได้รับเสียงชื่นชมในแง่ของความพยายามและระเบียบวินัยในการเล่น พวกเขาพยายามตั้งรับอย่างเป็นระบบและพยายามหาจังหวะสวนกลับ แต่ความแตกต่างของคุณภาพนักเตะทำให้ไม่สามารถสร้างโอกาสที่เป็นชิ้นเป็นอันได้ การเผชิญหน้ากับทีมระดับโลกอย่างเนเธอร์แลนด์ถือเป็นบทเรียนที่สำคัญสำหรับพวกเขา และจะเป็นประสบการณ์ล้ำค่าที่ช่วยให้ทีมพัฒนาในอนาคต

ในแง่ของภาพรวมของรอบคัดเลือก ชัยชนะในเกมนี้ช่วยให้เนเธอร์แลนด์เก็บเพิ่มเป็น 12 คะแนนจาก 5 นัด รั้งอันดับสองของกลุ่มตามหลังฝรั่งเศสอยู่เพียงแต้มเดียว และยังมีโอกาสสูงที่จะผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกอย่างไม่ยากเย็น การเล่นอย่างมั่นใจและมีสมาธิในทุกนัดคือสิ่งที่คูมันเน้นย้ำกับลูกทีมเสมอ เพราะฟุตบอลรอบคัดเลือกต้องใช้ทั้งความสม่ำเสมอและการบริหารพลังงานของนักเตะให้ดีที่สุด

สิ่งที่แฟนบอลเนเธอร์แลนด์รู้สึกได้จากทีมชุดนี้คือ “ความมั่นใจแบบใหม่” ที่ไม่ใช่แค่ความหวือหวาในการบุกเหมือนในอดีต แต่เป็นทีมที่รู้จักควบคุมจังหวะเกมและเล่นอย่างมีวินัยในทุกตำแหน่ง การกลับมาของผู้เล่นแกนหลักอย่าง เดอ ยอง, เดปาย และ ฟาน ไดค์ ทำให้ทีมมีทั้งประสบการณ์และคุณภาพ ขณะเดียวกัน ดาวรุ่งอย่าง ซิมอนส์ และ กัคโป ก็ช่วยเติมพลังความสดให้กับทีม การผสมผสานระหว่างสองเจเนอเรชันนี้คือสิ่งที่ทำให้เนเธอร์แลนด์ดูอันตรายขึ้นมากในยุคใหม่

ผู้เชี่ยวชาญฟุตบอลยุโรปหลายคนยกย่องว่า ระบบการเล่นของคูมันในเกมนี้สะท้อนถึงยุคทองของ “โททัล ฟุตบอล” ที่เคยสร้างชื่อให้ประเทศ เน้นการเคลื่อนที่อย่างต่อเนื่อง การสลับตำแหน่ง และการครองบอลเพื่อสร้างพื้นที่ ขณะที่แนวรับก็ยังคงความเหนียวแน่นและเล่นกันอย่างมีวินัย เมื่อรวมเข้ากับความเร็วของผู้เล่นแนวรุก ทำให้ทีมดูสมบูรณ์แบบทั้งเกมรุกและเกมรับ ซึ่งนี่คือจุดที่แฟนบอลทั่วโลก รวมถึงนักวิเคราะห์ฟุตบอลใน ทางเข้า UFABET มองว่า เนเธอร์แลนด์ชุดนี้มีศักยภาพเพียงพอที่จะกลับไปอยู่ในระดับแนวหน้าของโลกอีกครั้ง

บรรยากาศหลังเกมเต็มไปด้วยความชื่นมื่น นักเตะเนเธอร์แลนด์ต่างยิ้มและขอบคุณแฟนบอลที่เดินทางมาสนับสนุน แม้จะเป็นเพียงเกมรอบคัดเลือกแต่ทุกคนเล่นด้วยความตั้งใจเต็มที่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้แฟนบอลรู้สึกภาคภูมิใจ การเล่นด้วยหัวใจและความมุ่งมั่นคือสิ่งที่ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ต้องการมากที่สุดหลังจากผ่านช่วงเวลายากลำบากในอดีตที่พวกเขาเคยพลาดทัวร์นาเมนต์ใหญ่หลายครั้ง ตอนนี้พวกเขากลับมาอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องอีกครั้ง และมีอนาคตที่สดใสรออยู่ข้างหน้า

ในมุมของมอลตา แม้จะพ่ายแพ้แต่ก็ถือเป็นเกมแห่งการเรียนรู้ พวกเขาได้เห็นระดับความเร็ว ความแม่นยำ และคุณภาพของทีมระดับโลกอย่างเนเธอร์แลนด์ ซึ่งจะช่วยให้ทีมพัฒนาในระยะยาว การมีโอกาสเผชิญหน้ากับทีมใหญ่ในรอบคัดเลือกถือเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างแรงจูงใจให้กับผู้เล่นรุ่นใหม่ของมอลตาในการพัฒนาฝีเท้าต่อไป

สุดท้ายแล้ว ชัยชนะของเนเธอร์แลนด์เหนือมอลตา 4-0 ไม่ได้เป็นเพียงการเก็บสามแต้ม แต่เป็นการส่งสารถึงคู่แข่งในกลุ่มว่า “อัศวินสีส้ม” กลับมาแล้ว และพร้อมจะเดินหน้าสู่ฟุตบอลโลกด้วยความมั่นใจสูงสุด พวกเขามีทั้งระบบที่แข็งแกร่ง นักเตะคุณภาพ และความเข้าใจในเกมที่ยอดเยี่ยม การเล่นอย่างมีสมาธิและสมดุลในทุกพื้นที่ของสนามทำให้ทีมดูสมบูรณ์แบบกว่าที่เคยเป็นมา